คำให้การของแม่ค้าขายขนมจีบ

คำให้การของแม่ค้าขายขนมจีบที่ทำคนตายไม่เหมือนกับคำให้การของคนทำขนม 

จากข่าวที่ได้เกิดล่าสุดไปนั่นก็คือได้มีแม่ค้าขนมคนหนึ่งขี่มอเตอร์ไซค์ไปขายของที่ข้างทางซึ่งก็ได้มีคนหลายคนซื้อของจากเธอไปซึ่งเธอขายขนมจีบนั่นเองค่ะซึ่งหลังจากนั้นได้มีคุณยายคนหนึ่งพบว่าเธอเสียชีวิตจากการกินขนมจีบของแม่ค้าคนนี้ซึ่งตำรวจตรวจสอบขนมจีบและน้ำจิ้มอย่างนี้

ก็พบว่าในน้ำจิ้มนั้นมีสารเคมีอันตรายอยู่ในนั้น ซึ่งเป็นสารเคมีที่ถ้าเกิดว่าคนที่มีอายุมากแล้วหรือมีโรคประจำตัวอยู่อาจจะถึงกับเสียชีวิตได้ซึ่งมีผู้ชายคนหนึ่งอายุวัย 66 ปีเสียชีวิตลงจากการกินขนมจีนของแม่ค้าคนนี้และหลังจากนั้นตำรวจก็หาข้อมูลของคนที่ซื้อขนมจีบจากแม่ค้าคนเดียวกัน

ซึ่งหลายคนที่ได้ซื้อขนมจีบจากแม่ค้าคนเดียวกันนั้นก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าเมื่อกินแล้วก็ท้องเสียแต่โชคดีที่ไปหาหมอทันจึงสามารถรักษาให้หายได้หลังจากนั้นตำรวจก็สามารถหาตัวของแม่ค้าขายขนมจีบข้างทางคนนั้นได้สำเร็จแม่ค้าขายขนมจีบนั้นก็รีบสารภาพออกมาว่าตนเองนั้นรับของมาจากที่อื่นซึ่งรับขนมจีบมาจากร้านแห่งหนึ่งที่จังหวัดฉะเชิงเทราหลังจากนั้น

ค่อยนำมาขายอีกทีตัวเองยืนยันว่าเพียงแค่เปลี่ยนถุงจากร้านนั้นมาเป็นถุงของตัวเองเท่านั้นไม่ได้ทำอย่างอื่นแม้แต่อย่างไรแต่ขอสารภาพว่าเคยกินไปแล้วซองนึงซึ่งตัวเองซื้อมาให้ตัวเองแต่จริงๆแล้วตัวเองก็ท้องเสียเช่นเดียวกันแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรและคิดว่าอาจจะเป็นเพราะว่าบางทีอาจจะไปกินของอะไรมาซึ่งทำให้ท้องเสียจึงไม่ได้คิดอะไรมากและไม่ได้นึกว่าจะมีสารอันตรายอยู่ในน้ำจิ้ม

ที่ตัวเองนำไปขายและก็นำไปขายต่อไปเรื่อยๆโดยที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารซึ่งก็มารู้อีกทีหลังจากที่ตำรวจได้มาบอกคราวนี้เธอยอมรับว่าเธอเสียใจมากและเธอก็ได้ไปร่วมงานศพของคุณยายคนนั้นเช่นเดียวกันซึ่งจะไปร่วมงานศพกับคุณพ่อและคุณพ่อของเธอก็ปักธูปกลับหัวค่ะซึ่งมันทำให้คนทั้งแขกโกรธและเสียใจเป็นอย่างมากลูกสาวของคุณยายนั้น

ก็ได้ทำการขอร้องให้เขากลับมาปักธูปแต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรและยังไม่มีการคืบหน้าค่ะแต่วันนี้ที่เราได้ข่าวมาเพิ่มก็คือนักข่าวได้ทำการถามคนที่ขายขนมเป็นคนที่ขายขนมให้แม่ค้าที่นำของมาขายทีคำให้การของทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันมากแบบทางนักข่าวถูกสั่งจากตำรวจไม่ให้ระบุไว้ว่าคำให้การเป็นอย่างไร

จึงไม่สามารถบอกได้ละเอียดได้แต่ที่รู้ๆกันเลยก็คือ คำให้การของทั้งสองไม่ตรงกันจึงทำให้ทั้งสองดูมีพิรุธทั้งคู่จนถึงเวลานี้ตำรวจก็ยังไม่สามารถที่จะรู้ได้ว่าใครเป็นคนที่โกหกเรื่องนั้นก็ต้องติดตามข่าวกันต่อไปนะคะ

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  คาสิโนออนไลน์

เรื่องนี้ถูกเขียนใน ข่าวสังคมทั่วไป และติดป้ายกำกับ , คั่นหน้า ลิงก์ถาวร