บอยปฏิเสธกักตุนหน้ากากอนามัยสุดท้ายโป๊ะแตก

บอยปฏิเสธกักตุนหน้ากากอนามัยสุดท้ายโป๊ะแตกไปเจอกล่องหน้ากากที่ถังขยะ

        จากกรณีที่มีFacebook ของแหม่มโพดำได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับการกักตุนหน้ากากอนามัยแล้วนำไปขายให้กับประเทศจีนซึ่งส่งผลให้กับประเทศไทยประชาชนต้องขาดแคลน หน้ากากอนามัยจนถึงขนาดต้องนำผ้ามาเย็บเป็นหน้ากากอนามัยใช้กันซึ่งทาง Pages ของแหม่มโพดำได้ออกมาระบุว่ามีชายคนหนึ่งที่ชื่อว่าบอยซึ่งเป็นคนที่ใกล้ชิดและรู้จักสนิทสนมกับลูกน้องของรัฐมน ตรีที่มีชื่อเสียงอยู่ในขนาดนี้โดยมีการนำข้อมูลหลักฐานทั้งคลิปเสียงรูปภาพเกี่ยวกับการประกาศขายหน้ากากอนามัยที่มีการกักตุนเอาไว้ซึ่งมีการเปิดเผยลงใน Facebook

ส่วนตัวของนายบอยโดยมีการลำดับเรื่องราวเอาไว้ว่าตั้งแต่ 7 กุมภาพันธ์แล้วที่ไหนบอร์ดประกาศว่ามีสินค้าเป็นหน้ากากอนามัยออกมาจำหน่ายและหากใครที่ต้องการที่จะซื้อสินค้าก็สามารถทักมาที่ไหนบอยได้โดยตรงต่อมาในวันที่แปดกุมภาในบอยก็ยังโพสต์ภาพที่มีการไปพูดคุยกับคนจีนโดยระบุว่าเป็นการมาคุยเรื่องสัญญาซื้อขายหน้ากากอนามัยกันหลังจากนั้นวันที่เก้านายบอยก็แสดงสมุดบัญชีที่มีเงินจากการขายหน้ากากอนามัยอีกทั้งยังประกาศลงบน Facebook

อีกว่าตอนนี้ในบอยมีหน้ากากอนามัยกักตุนไว้ถึง 200,000,000 ชิ้นและหากใครสนใจสามารถติดต่อในบ่อได้โดยตรงหลังจากนั้นเว้นระยะมาโพสอีกทีวันที่ 13 กุมภาพันธุ์โดยระบุเป็นรูปภาพและคลิปตอนกำลังขนย้ายหน้ากากอนามัยเข้ามาในโรงงานของตนเองหลังจากนั้นวันที่ 20 ในบอยก็โพสต์ข้อมูลว่าวันนี้ได้ไปคุยกับลูกน้องคนสนิทของ รอ. ธรรมนัส  พรหมเผ่า

ที่โรงแรมดังแห่งหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องการซื้อขายหน้ากากอนามัยกันหลังจากนั้นต่อมาวันที่ 21 กุมภาพันธ์ในบอยก็มีการโพสลง Facebook คู่กับรถพร้อมทั้งระบุว่าตอนนี้ยังมีหน้ากากอนามัยออกมาให้จำหน่ายรอคนมาซื้ออยู่ตั้งจากนั้นทิ้งช่วงไปจนถึงวันที่ 2 มีนาคมนายบอยก็ต้องมีการโพสลง Facebook อีกว่าตอนนี้มีการจำหน่ายอนามัยชิ้นละ 14 บาทโดยตอนนี้มีสินค้าอยู่ทั้งหมด 5,000,000 ชิ้นซื้อหน้ากากอนามัยที่ไหนบอยมีอยู่นั้นเป็นหน้ากากอนามัยที่มีคุณภาพสามารถใช้ในโรงพยาบาลได้เป็นหน้ากากอนามัยแบบสามชั้น

ที่สำคัญในการโพสต์ Facebook ในวันที่ 2 มีนาคมนี้ยังมีการระบุรูปบัตรประจำตัวของนายพิตตินันท์ ซึ่งชายคนนี้เป็นลูกน้องคนสนิทรวมถึงเป็นผู้ติดตามของ รอ. ธรรมนัส. พรหมเผ่า ไว้ใน Facebook ส่วนตัวของตัวเองอีกด้วยและหลังจากนั้นเมื่อวันที่ 7 มีนาคมนายบอยยังโพสต์ภาพรูปรถเบนซ์ป้ายแดงซึ่งระบุได้ว่าตอนนี้ในสถานการณ์ของรัฐบาลที่ดูแลโดยพลเอกประยุทธ์ไม่ว่าอาชีพอะไร

ก็ไม่สามารถทำกำไรได้นอกจากการขายหน้ากากอนามัยเท่านั้นในตอนนี้ที่สร้างรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำ หลังจากนั้นในวันที่ 8 มีนาคมนายบอยก็โพสต์ขอโทษเกี่ยวกับเรื่องการโพสต์รูปหน้ากากอนามัยโดยบอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตรวจสอบยังสถานที่เกิดเหตุต่างๆทั้งที่บ้านและที่โกดังก็ไม่พบสินค้าเป็นหน้ากากอนามัยดังกล่าวแต่ได้มีชาวบ้านมาให้ข้อมูลกับนักข่าวว่ามักจะเห็นกล่องขายหน้ากากอนามัยอยู่ในถังขยะด้านหลังโกดังซึ่งเมื่อนักข่าวไปขนขยะดูก็พบกล่องหน้ากากอนามัยที่ตรงกับที่หน้าบอยโพสต์ลงใน Facebook ซึ่งถือว่าครั้งนี้เป็นการจับโป๊ะของนายบอยได้จริงๆ          

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  9luck

เรื่องนี้ถูกเขียนใน ข่าวสังคมทั่วไป และติดป้ายกำกับ คั่นหน้า ลิงก์ถาวร